"เราจะขายอะไรต้องศึกษาให้รู้จริง ก่อนที่จะขายให้ลูกค้า"
         การบอกเล่าผ่านมุมมองของ คุณสโรชา แพงมา เจ้าของร้านสโรชา ที่ยึดถือและน้อมนำมาปรับใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต ดั่ง พ่อสอนว่า... 

 "การทำงานที่จะทำสัมฤทธิ์ผลที่พึงปรารถนา คือ ที่เป็นประโยชน์และเป็นธรรมด้วยนั้น จะอาศัยความรู้แต่เพียงอย่างเดียวมิได้ จำเป็นต้องอาศัยความสุจริต ความบริสุทธิ์ใจ และความถูกต้องเป็นธรรมประกอบด้วย"
(พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรามคำแหง วันศุกร์ ที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๐)

      ร้านสโรชา จำหน่ายเครื่องสำอางค์ ปลีก-ส่งและนำเข้า ภายใต้แบรนด์ชั้นนำมากกว่า 20 แบรนด์ ขายดีจนต้องบอกต่อ ที่ใครๆต่างพูดถึง แม้แต่ช่างแต่งหน้าชื่อดังเลือกร้านนี้ 
       คุณสโรชา ได้เล่าว่า ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าของ ร้านสโรชา ในปัจจุบัน เริ่มจากทำงานรับราชการ แล้วอยากหารายได้เสริม ที่เป็นธุรกิจของตัวเอง ทุนเดิมเป็นคนชอบเรื่องความสวยความงาม จึงรู้แหล่งของสินค้าที่จะรับมาขาย ประกอบกับช่วงนั้นศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ พึ่งเปิดใหม่และมีพื้นที่หน้าศูนย์การค้าเป็นตลาดแบกะดิน เลยลองมาขายดู ปรากฎว่าขายได้ ช่วงแรกๆแทบไม่ได้กำไร แต่กับทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากการบอกเล่าปากต่อปากทำให้ขายดีขึ้นเรื่อยๆ เลยตัดสินใจออกจากงานราชการและมาขายของอย่างจริงจัง จากร้านเล็กๆก็เริ่มขยายมาอยู่ในศูนย์การค้าฯ  ปัจจุบันก็ร่วม 10 ปี พูดได้ว่าโตมาพร้อมๆกับ ยูเนี่ยน มอลล์ 

เราต้องมีจรรยาบรรณในการขาย ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ค้ากำไรจนเกินควร เมื่อเจอปัญหาต้องใจเย็นๆในการเจรจา พูดคุยด้วยรอยยิ้ม สิ่งสำคัญเราต้องใส่ใจลูกค้าไม่ดูถูกลูกค้า เป็นมิตรและเป็นกันเองกับลูกค้า

     จุดเด่นของร้าน คือ ความหลากหลายของตัวสินค้าและคุณภาพที่คุ้มค่ากับราคาทุกคนจับต้องได้ การตกแต่งร้านที่ทันสมัยปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา    

     คุณสโรชา ได้น้อมนำ พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้การดำเนินชีวิตและการประกอบธุรกิจ ในด้านความใส่ใจกับทุกตัวสินค้าที่ตัวเองขาย ทุกชิ้นคุณสโรชาจะเป็นคนเลือกและคัดสรรด้วยตัวเองก่อนที่จำนำมาขาย "เราจะขายของหรือแนะนำสินค้าให้ใครต้องรู้จักตัวสินค้านั้นๆ ก่อน สิ้นค้าทุกตัวไม่ใช่ว่าจะหยิบจับอะไรแล้วจะขายได้แต่ต้องรู้จักเลือก และเลือกสิ่งดีๆเสมือนกับการเลือกของให้ตัวเอง" แล้วสินค้าจะขายตัวของมันเอง จนทำให้มีลูกค้าติดใจในตัวสินค้าและการบริการ  ปัจจุบันร้านสโรชาขยาย ไปถึง 4 สาขา ในยูเนี่ยนมอลล์ 2 สาขา และมีจังหวัดอุบลราชธานีไปจนถึงในห้างประเทศเพื่อนบ้าน

"ไม่ท้อและอดทนต่อสู้กับอุปสรรค ด้วยความเพียรพยายาม"

          การบอกเล่าผ่านมุมมองของ คุณสิทธิพงศ์ ลัดดาวงค์ เจ้าของร้านดอกฝ้าย ที่ยึดถือและน้อมนำมาปรับใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต ดั่ง พ่อสอนว่า...

           

     "การทำงานให้ได้ยั่งยืนและมั่นคงก้าวหน้าไม่เลิกราท้อถอยเสียกลางคันนั้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้มีหน้าที่สร้างสรรค์ความเจริญ. ข้อนี้ ขึ้นอยู่กับการรักษาเจตนา รักษาความตั้งใจ พอใจ และผูกใจในงาน ยิ่งกว่าอื่น เพราะความแน่วแน่และพอใจในงานนั้น ย่อมทำให้เกิดความพากเพียรและอดทนที่จะกระทำงานให้ต่อเนื่องกันไปได้โดยตลอด. เมื่อหมั่นทำอยู่เสมอ ก็เกิดความชำนิชำนาญและความช่ำชองคล่องแคล่ว ช่วยให้ทำงานได้โดยสะดวก ด้วยความเบิกบานเบาใจ เหมือนกับนักกีฬาที่หมั่นฝึกซ้อม ยิ่งฝึกก็ยิ่งได้ทั้งกำลังและความเก่งกาจเพิ่มขึ้น. สิ่งที่ทำยาก ก็ค่อย ๆ กลายเป็นง่าย จะทำอะไรก็ทำได้รวดเร็วและเหนียวแน่นจนสำเร็จ "

( พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๒๗)     

     ร้านขายถุงเท้า ดอกฝ้าย เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์ เป็นของตัวเอง หากเอ่ยถึง ร้านขายถุงเท้าใน ยูเนี่ยนมอลล์ ทุกคนต่างพูดถึงร้านดอกฝ้าย แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่า กว่าจะมาเป็นถุงเท้าคุณภาพดีราคาประหยัดที่ทุกคนใส่กัน นั้นมีความเป็นมาอย่างไร 

     คุณสิทธิพงศ์ เริ่มต้นชีวิตในเมืองหลวงที่ติดลบ ไม่เคยท้อถอยกับโชคชะตา แต่กับเป็นแรงผลักดันให้เค้าขยันหมั่นเพียร อดทน เริ่มจากหาสินค้าต่างๆมาขายตามสะพานลอย ตามชุมชน ด้วยเงินทุนเพียงพันกว่าบาท วันหนึ่งต้องเดินทางไปที่ต่างๆเพื่อเร่ขายของ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนวันหนึ่งเขาเริ่มที่ศึกษาความต้องการของลูกค้า ความเป็นไปได้ว่าสินค้าอะไรที่ขายได้ ตรงตามความต้องการของทุกเพศทุกวัย และกลับมาซื้อซ้ำอีก ทดลองผิดๆถูกๆจนมาถึงถุงเท้าที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด เขาจึงเลือกที่จะขายถุงเท้า

     ย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาเริ่มต้นรับถุงเท้ามาขายในราคาที่ทุกคนสามารถซื้อได้ โดยมาตั้งร้านเล็กๆขายที่ตลาดแบกะดินหน้ายูเนี่ยน มอลล์ เริ่มขายดีจนเป็นที่รู้จักและเก็บหอมรอมริบ ค่อยเป็นค่อยไป  คุณสิทธิพงศ์ ได้กล่าวว่า "ผมน้อมนำพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาเป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตทำให้ผม ไม่ท้อและอดทนต่อสู้กับอุปสรรค ด้วยความเพียรพยายยาม ผมสร้างฐานแบบพีระมิด ทำฐานให้กว้าง เราจะไม่ล้ม " และนั่นก็เป็นจุดๆหนึ่ง ที่ทำให้เขาสามารถขยายกิจการจนได้เป็นแบรนด์ ดอกฝ้าย วางขายบนศูนย์การค้าฯ จนถึงทุกวันนี้ 

จุดเด่น ของถุงเท้าร้านดอกฝ้ายทำให้มีลูกค้าติดใจในตัวสินค้าและมีการบอกต่อ มีลูกค้าขับรถจากมีนบุรีเพื่อมาซื้อถุงเท้าร้านดอกฝ้าย นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาภูมิใจมาก ว่าสิ่งที่เขาเลือกคัดสรรให้ลูกค้าตอบโจทย์ที่ได้ตั้งใจไว้ และด้วยทำเลและที่ตั้งของ ศูนย์การค้า ยูเนี่ยน มอลล์ ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมือง จึงเป็นหนึ่งเหตุผล ที่คนเข้ามาซื้อได้สะดวก  ตั้งแต่เปิดร้านเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี มียอดขายที่ดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

            คุณสิทธิพงศ์ ได้ใช้ความเพียรพยายาม ความอดทน ยึดหลักคำสอนจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตและปรับใช้กับการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบัน

 

"การดำรงชีวิตต้องปรับปรุงตัวตลอดเวลา การปรับปรุงตัวจะต้องมีความเพียรความอดทนเป็นที่ตั้ง"

การบอกเล่าผ่านมุมมองของ คุณพันเลิศ สวรรยานุภาพ เจ้าของร้านTriple 3 it ที่ยึดถือและน้อมนำมาปรับใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิต ดั่ง พ่อสอนว่า...

"คนเราต้องเตรียมตัวเพื่อที่จะเผชิญปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตแต่การเตรียมตัวนั้นก็ต้องมีความรู้ประกอบด้วย มีการฝึกนิสัยใจคอของตนให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ด้วย สิ่งสำคัญในการที่จักตัวเองรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร"

(พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยเกษตรกรรมแม่โจ้ เชียงใหม่ วันพุธที่ 3 มกราคม  2516)

               ร้านที่เริ่มมาจากแค่คิดว่าอยากทำอะไรก็ได้แค่อยู่ใกล้ๆ ไปส่งลูกเรียนสะดวก จากที่คิดว่าทำเล่นๆในระยะเวลาสั้นๆจนกลายมาเป็น ธุรกิจหลักของครอบครัวในปัจจุบัน

               ธุรกิจบางอย่างอาจจะไม่ได้เริ่มมาจากความชำนาญ แต่การทำงานทุกอย่างต้องมีการศึกษาข้อมูลก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ และเมื่ออยู่กับสิ่งนั้นทุกวันเราจะเรียนรู้และเกิดความชำนาญขึ้นมาเอง คุณพันเลิศ บุคคลตัวอย่างอีกท่านหนึ่ง ที่เริ่มทำร้านแรกๆอาจจะเริ่มมาจากความคิดที่จะอยากเปิดร้านเล็กๆขายไรก็ได้เพียงเพราะใกล้โรงเรียนลูก เดินทางสะดวก แต่พอเปิดร้านไปไม่ใช่ว่าเราอยากขายแล้วเอาอะไรมาขายก็ได้

    
          Triple 3 it เป็นร้านให้บริการเกี่ยวกับเติมเงิน และ จ่ายบิล ฟังดูเหมือนจะง่ายแต่ทุกอาชีพย่อมมีอุปสรรคและปัญหาเหมือนกัน คุณพันเลิศ ไม่ได้เริ่มจากการเรียนรู้ทางด้านนี้มาโดยตรง เขาต้องศึกษาและปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา หมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆจนเกิดความชำนาญ  ดังหลักคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ มาปรับใช้ จากที่คิดว่าเปิดช่วงสั้นๆ ตอนนี้อยู่ที่ศูนย์การค้ายูเนี่ยน มอลล์ มา 10 ปี แล้วชึ่งธุรกิจที่ทำก็ไม่ใช่ร้านเล่นๆอีกต่อไป และมีใจรักในการบริการ จนกลายเป็นร้านที่มีคนรู้จักและคนสนใจมาใช้บริการอยู่ตลอด จนทำให้ประสบผลสำเร็จมาถึงทุกวันนี้